วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ตำแยแมว สรรพคุณและประโยชน์ของต้นตำแยแมว 17 ข้อ !

ลักษณะของตำแยแมว

  • ต้นตำแยแมว จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง สูงได้ประมาณ 2 ฟุต แตกกิ่งก้านจากโคนต้น เนื้อภายในอ่อนและไม่แข็งแรง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำและการแยกต้น ชอบขึ้นตามที่ดินเย็นๆ พบขึ้นเป็นวัชพืชตามที่รกร้างทั่วไป และตามที่มีอิฐปูนเก่าๆ ผุๆ[1],[2],[3]
ต้นตำแยแมว
  • ใบตำแยแมว ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดเล็ก (ใหญ่กว่าใบพุทราเล็กน้อย) ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปมนรี รูปไข่ หรือรูปกลมโต ปลายใบมนหรือแหลมเล็กน้อย โคนใบสอบ ส่วนขอบใบหยักเล็กน้อย แผ่นใบเป็นสีเขียว ด้านบนมีขนขึ้นปกคลุม[1],[2],[3]
ใบตำแยแมว
  • ดอกตำแยแมว ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ รอบๆ ลำต้น ส่วนยอดของช่อดอกเป็นดอกเพศเมีย ลักษณะของดอกจะคล้ายกับใบอ่อนที่มีขนาดเล็ก แต่เมื่อบานเต็มที่แล้วใบอ่อนนี้ก็ยังคงติดอยู่และไม่ร่วง มีใบประดับหยักเป็นซี่ฟัน มีขนปกคลุม แต่ละใบประดับจะหุ้มห่อดอก 2-6 ดอก[1],[2],[3]
ตำแยตัวผู้
ดอกตำแยแมว

สรรพคุณของตำแยแมว

  1. ต้นมีสรรพคุณทำให้อาเจียน (ต้น)[1]
  2. ใช้เป็นยาช่วยขับเสมหะ ขับเสมหะในโรคหลอดลมอักเสบ เสมหะในโรคหอบหืด ด้วยการใช้ใบสดๆ นำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปต้มกับน้ำ 4 ถ้วยแก้ว ให้เหลือเพียง 2 ถ้วยแก้ว ใช้ดื่มครั้งละ 1 ถ้วย เช้าและเย็น (ต้น,ราก,ใบ,ทั้งต้น)[1],[2],[3]
  3. ช่วยแก้อาการไอ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[3]
  4. ใช้เป็นยารักษาโรคหอบหืด ภูมิแพ้ ด้วยการถอนทั้งต้นและราก นำมาต้มกับน้ำดื่มสัก 1 แก้ว ใช้ดื่มเมื่อมีอาการ แก้วเดียวก็หาย หรือจะนำมาโขลกผสมกับน้ำซาวข้าว กรองใส่ผ้าขาวบางให้ได้น้ำข้นๆ 1 แก้ว แล้วดื่มก็มีสรรพคุณดีเช่นกัน (ทั้งต้น)[5]
  5. ต้น ราก ใบ หรือทั้งต้นหากนำมารับประทานในปริมาณมากจะทำให้คลื่นเหียนอาเจียน และทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร (ต้น,ราก,ใบ,ทั้งต้น)[3]
  6. ลำต้นที่อ่อนๆ ใช้เป็นยาล้างเมือกในท้องหรือทำความสะอาดทางเดินอาหาร ด้วยการนำต้นสดทั้งต้นมาคั้นเอาแต่น้ำ ซึ่งน้ำที่ได้นี้จะใช้เป็น purgative (ต้น)[1]
  7. ต้น ราก และใบมีสรรพคุณเป็นยาถ่าย ยาระบาย (ต้น,ราก,ใบ)[1],[3]
  8. ใบใช้เป็นยาขับพยาธิ ขับพยาธิเส้นด้าย ด้วยการนำใบสดมาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ หรือนำมาต้มกิน หรือจะใช้ใบสดนำมาคั้นเอาน้ำผสมกับกระเทียมก็ได้ (ต้น,ใบ)[1],[2],[3]
  9. ต้นหรือใบนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาถอนพิษเมาเบื่อในทางเดินอาหาร (ต้น,ใบ)[1],[2]
  10. ใบใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง ด้วยการใช้ใบสดนำมาตำผสมกับเกลือแกง ใช้ทาบริเวณที่เป็น (ใบ)[1]
  11. ใบแห้งนำมาป่นให้ละเอียดใช้โรยรักษาแผลเนื่องจากนอนมาก (ใบ)[3]
  12. ใบใช้เป็นยาทาแก้โรค rheumatism ได้ (ใบ)[1]
  13. ใบสดนำไปตีหรือฟาดเบาๆ ตามตัวหรือบริเวณที่ถูกพิษคันจากต้นตำแยตัวเมีย จะช่วยทำให้หายจากอาการคันได้ (ใบ)[4]
  14. แพทย์แผนไทยบางพื้นที่จะใช้รากตำยาแมวกะเพียงเล็กน้อย นำมาต้มกับน้ำ 3-4 แก้วจนเดือน ใช้ดื่มก่อนอาหารมื้อไหนก็ได้วันละ 1 แก้ว เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกายให้แข็ง ช่วยกระจายเลือดลม แก้อาการปวดเมื่อย และช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้นอีกด้วย (ราก)[4]
ข้อควรระวัง : ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้มากจนเกินขนาด เพราะจะทำให้อาเจียน[1],[2] ส่วนต้นและรากมีฤทธิ์ทำให้ช่องทางเดินอาหารเกิดอาการระคายเคืองได้ คนพื้นบ้านจึงนำมาต้มกินเพื่อเป็นยาขับเสมหะ[3]
advertisements

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของตำแยแมว

  • ทั้งต้นสดและต้นแห้งจะมีสารจำพวก alkaloid, acalyphine, tannin, vestin, volatile oil แต่ถ้าเป็นวัตถุดิบที่ส่งมาจาทางแอฟริกาใต้ ซึ่งพบรายงานอยู่ใน Petelot reports จาก Remington & Roets พบว่าสามารถที่จะแยกได้สาร Cyanoginitie glucoside, Quibrachitol และ Triacetonamine[1]

ประโยชน์ของตำแยแมว

  1. ใบสดใช้ปรุงเป็นอาหารได้ เช่น แกงเลียง[3]
  2. ทั้งต้นใช้เป็นยาถอนพิษของโรคแมวได้ดี มีผู้ค้นพบว่าในขณะที่แมวไม่สบายหรือมีไข้ หากมันได้เคี้ยวลำต้นของตำแยแมวเข้าไป ไม่นานก็จะหายจากอาการไข้ได้ และในขณะเดียวกันถ้าแมวนั้นกินสารที่มีพิษเข้าไป ก็แก้โดยการให้กินต้นตำแยแมวเข้าไป แล้วมันก็จะอาเจียนหรือสำรอกพิษออกมา จึงเป็นการช่วยถอนพิษในแมวได้ ทำให้มันกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ฉะนั้นคนส่วนใหญ่จึงนิยมเรียกตำแยตัวผู้ว่า “ตำแยแมว[1],[3]
  3. ต้นตำแยแมวนี้หากถอนขึ้นมาทั้งราก เมื่อแมวเห็นเข้าก็จะรีบตรงเข้ามากลิ้งเกลือกบนต้นตำแยแมวอย่างเคลิบเคลิ้มและมีความสุขอยู่นานพอควร จากนั้นก็จะกินรากจนหมด ซึ่งสันนิษฐานว่ารากของตำแยแมวน่าจะมีกลิ่นที่ดึงดูดแมวได้เช่นเดียวกับ Pheromone ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศที่ใช้ดึงดูดเพศตรงข้าม จึงทำให้แมวรู้สึกหลงไหลและเคลิบเคลิ้ม แต่ก็ใช้ว่าแมวทุกตัวจะหลงไปกับกลิ่นของรากตำแยแมว คงมีแมวเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เห็นแล้วอาจจะไม่รู้สึกอะไร เห็นรากตำยาแมวเป็นเพียงต้นไม้ต้นหนึ่งเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีพืชอีกหลายชนิดที่ทำให้แมวเคลิบเคลิ้มและมีความสุขได้เช่นกัน เช่น “กัญชาแมว” หรือใบ “แคตนิป” (Catnip) แต่ต่างกันตรงที่ถ้าเป็นต้นตำแยแมว แมวจะชอบกินราก แต่ถ้าเป็นกัญชาแมว แมวจะชอบกินใบ)[3],[4]
รากตำแยแมว
References
  1. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “ตำแยตัวผู้”.  หน้า 313-314.
  2. สวนพฤกษศาสตร์สายยาไทย.  “ตำแยตัวผู้”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.saiyathai.com.  [16 ธ.ค. 2014].
  3. YAHOO!.  “ตำแยแมว มันคืออะไร ?”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: th.answers.yahoo.com.  [16 ธ.ค. 2014].
  4. ไทยรัฐออนไลน์.  (นายเกษตร).  “ตำแยแมว คนกินได้”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.thairath.co.th.  [16 ธ.ค. 2014].
  5. จำรัส เซ็นนิล.  “โรคหอบหืด-ภูมิแพ้ บำบัดด้วยตำแยแมว”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.jamrat.net.  [16 ธ.ค. 2014].
ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Nelindah, cpmkutty, judymonkey17, Nuraishah Bazilah Affandi)
เรียบเรียงข้อมูลโดย ฟรินน์.คอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น